ในที่สุดสุทิดาก็ตกที่นั่งเดียวกับศรีรัตน์เมื่อก่อนหน้านี้แหล่งข่าวภายในราชสำนักของสุทธิดาที่Angelworkบอกว่าฉันเจ็บหรือชั้นบนสุดของโรงแรมเหล่านี้ถูกเช่าเหมาชั้นให้สุดธิดาและคนรับใช้คนสนิทและหนังข่าวก็ยังบอกอีกว่าสุดที่ด่านนั้นใจดีกับเจ้าหน้าที่ของเธอและเป็นมิตรกับผู้คนที่เธอพบเห็นที่แองโกเบิร์ดพยายามจะปกปิดพฤติกรรมแม้แต่น้อยเขาพกฮาเร็มของเขามาด้วยและก็ยึดครองชั้น7ของโรงแรมจนหมดในวันทั่วๆไปเวลาวชิราลงกรณ์มาอยู่ที่โรงแรม เหล่านี้เขาจะตื่นนอนประมาณ4โมงเย็นมากินข้าวกับส่วนที่ดาเขาตื่น4โมงเย็นกินข้าวด้วยกันแล้วก็ไล่สุดที่ด่าไปที่อื่นหลังจากกินข้าวเสร็จสุทธิดาถูกขับออกจากชั้น7เพื่อที่วชิราลงกรณ์จะได้เสพสุขกับฮาเร็มของเขาระหว่างนั้นสุทธิดาก็จะมาอยู่กับบรรดาเจ้าหน้าที่ที่ชั้นล่างเขาไม่ค่อยจะอยู่กับพระราชินีนักเขาชอบอยู่ที่ชั้น7กับสาวๆของเขาขณะที่พระราชินีจะไปทำอย่างอื่นอยู่ที่ชั้นล่างพร้อมกับเจ้าหน้าที่ของเธอหลังจากนั้นกลางดึกประมาณตี2ตี3 วชิราลงถึงจะได้ซื้อจากขึ้นมาเจออีกครั้งกินข้าวด้วยกัน1มื้อแล้วก็แยกย้ายไปนอนบางวันที่วชิราลงกรณ์เนื่องจากออกไปปั่นจักรยานหรือเล่นสกีเขาก็จะตื่นเช้าขึ้นหน่อยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมางานอดิเรกใหม่ขององค์วชิราลงกรณ์ที่มาแทนที่การขับเครื่องบินนั้นก็คือการปั่นจักรยานเวลาที่วชิราลงกรณ์มาที่แอ่งทั่วBirdเขานำพาบรรยากาศแห่งความกลัวมาด้วยเขาขึ้นชื่อในเรื่องของความโหดร้ายกับใครก็ตามที่ทำให้เขาไม่พอใจและลูกสมุนไพรก็ จะพร้อมที่จะเฆี่ยนตีหรือทรมานเจ้าหน้าที่ที่ทางวังในเรื่องความผิดแม้เพียงเล็กน้อยวชิราลงกรณ์มีเครือข่ายจากข่าวอยู่ในหมู่ข้าราชบริพารที่รับใช้สุทิดาในAngelWorksพวกเขาคอยคาบข่าวไปแจ้งวชิราลงกรณ์เสมอว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างที่นั่นหนึ่งในเรื่องประหลาดของการเป็นสมาชิกราชวงศ์ไทยคือคุณแทบไม่เคยได้อยู่คนเดียวเลยตั้งแต่ตื่นไปจนถึงเวลานอนที่โรงแรมเบ้าเด้นอกจากข่าวของเหล่าข้าราชบริพันธ์แล้วก็ยังมีอดีตสมาชิกฮาเร็มแหล่งข่าวให้ การว่าเป็นที่รู้กันในหมู่ข้าราชการของสุทธิดาแห่งว่าพ่อของเด็กคนนั้นคือวชิราลงกรณ์ซึ่งแม่ของเด็กนั้นถูกส่งมาที่โรงแรมมัลดีฟหลังจากที่ตั้งท้องแหล่งข่าวหนึ่งยังบอกอีกว่าคำอธิบายของทางการบอกว่าเธอตั้งท้องกับทหารคนหนึ่งแต่ทุกคนลงก่อนเป็นพ่อของเด็กคนนั้นเองแต่ที่ทราบมาก็คือเด็กชายคนนั้นไม่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษอะไรและเวลาที่เขามาพักที่โรงแรมวชิราลงกรณ์ก็ไม่ได้ออกตัวความพิศวาสอะไรเด็กคนนี้เป็นพิเศษแหล่งข่าวที่รู้เรื่องนี้โดยตรงยังบอกอีก ว่าวชิราลงกรณ์นั้นเคยทำมันเมื่อตอนประมาณช่วงปี2533หลังจากที่มีลูกกับยุวธิดาเป็นคนที่5แต่ถ้าว่าเขาก็ผ่าตัดแก้หมันในช่วงทศวรรษถัดมาเพื่อที่จะมีลูกกับศรีรัชเมื่อพิจารณาจากไลฟ์สไตล์ของเขาแล้วก็มีคนคาดการณ์ว่าวชิราลงกรณ์ณจะมีลูกลับๆอยู่อีกหลายคนความลับนี้ส่งผลต่อความไม่แน่นอนของการสืบสันตติวงศ์สุทธิดาถูกจับตามองอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าเธอจะทำอะไรหรือไปที่ไหนวชิราลงกรณ์จะรับรู้ความเคลื่อนไหวเสมอดังนั้นเรียกได้ว่าเธอถูกจำกัดชีวิตอยู่ แต่ในโรงแรมเป็นนักโทษที่อยู่ในคุกแสนสวยและเมื่อใดก็ตามที่เธอเริ่มสนิทกับใครมากเกินไปพวกเขาเหล่านั้นก็จะยิ่งเสี่ยงที่จะถูกลงโทษสุดท้ายเธอก็ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเหลือเกินเดี่ยวที่เธอมีตอนนี้ก็คือตำแหน่งพระราชินีวชิราลงกรณ์ยังอยากกลับเธอไม่ได้เพราะจะนำพาความละอายมาสู่เขาแถมจะยังพาราชวงศ์เข้าสู่ข่าวอื้อฉาวครั้งใหม่สุทิดาต้องพยายามอย่างมากที่จะรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้ตัวเองและเจ้าหน้าที่ของเธอรวมถึงต้องคอยติดสกัดก้อยผู้ซึ่งเป็น คู่แข่งที่ทะเยอทะยานจากขึ้นมาตำแหน่งราชินีแทนเธอให้ได้เพียงแค่3เดือนหลังจากที่วชิราลงกรณ์แต่งงานกับสุธิดาเขาก็หักหน้าเธอต่อสาธารณชนอย่างรุนแรงด้วยการแต่งตั้งก้อยขึ้นสู่ตำแหน่งสนมพิเศษเจ้าคุณพระอย่างเป็นทางการในวันเกิดของเขาเองเมื่อ28กรกฎาคม2562สุทธิดาต้องเข้าร่วมพิธีแต่งตั้งนี้โดยทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งและมองก้อยหมอบคลานเข้ามากราบเท้าไว้ที่ไหลลงก่อนในพิธีการที่เขามีทั้งภรรยามีนางสนมคนโปรดและมีสาวๆในฮาเร็มอีกนับ10คนนั้นนำมาซึ่งการ แข่งขันและความขัดแย้งจนแม้แต่ลูกสาวของวชิราลงกรณ์ทั้งพัชรกิติยาภาและศิริวรรณในช่วงที่เขาปรับปรุงเทพเมื่อเดือนตุลาคมและสั่งจำคุกเธอไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลางที่แขวงลาดยาวเขตจตุจักรในพระบรมราชโองการประกาศโปรดนั้นกล่าวหาเธอไว้ว่าถ้ายานมักใจใฝ่สูงขาดความกตัญญูไม่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณความขัดแย้งพลังนี้ลามไปทำให้เธอต้องเลือกพิธีพยุหะยาตราทางชลมากสิ่งไหนวิษณุเครืองามรองนายกรัฐมนตรีพยายามออกมาแก้ตาว่าเป็นปัญหาจากน้ำทะเล หนุนสูงประมาณกลางปีก่อนแหล่งข่าวทางวังเริ่มแง้มออกมาว่าวชิราลงกรณ์กำลังจะให้อภัยก้อยและเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาก็ได้มีจดหมายซองเล็กๆปีวอนชัชวาลย์คงพันธ์ในซองจดหมายนั้นแนบเมมโมรี่การ์ดที่บันทึกรูปกว่า1443รูปจากมือถือiPhone3เครื่องที่ก็เคยใช้ในช่วงปี2555ถึง2557รูปส่วนมากนั้นเป็นรูปวาบหวิวติดเกรดสำหรับแหล่งที่มาว่าใครส่งมานั้นจะเป็นปริศนาแต่เป็นไปได้อย่างสูงว่ารูปพวกนี้หลุดออกมาและพยายามเผยแพร่โดยศัตรูของก้อยที่ต้องการทำรายการกอบกู้ ชื่อเสียงของเธอแต่ในที่สุดก็ถูกปล่อยตัวเมื่อปลายเดือนสิงหาคมและถูกส่งเครื่องบินไปบาวาเรียทันทีโดยเครื่องบินโบอิ้ง737ส่วนตัวของวชิราลงกรณ์เองเข้าถึงกับแต่งตัวcropTopไปรับก้อยถึงสนามบินด้วยตัวเองอีกด้วยคู่แข่งของสุธิดาคืนสนามแล้วหลังจากที่ใช้เวลาในช่วงล็อกดาวน์เนื่องจากการระบาดของโคโรนัลไวรัสอยู่ที่โรงแรมแกรนด์โฮเทลและโรงแรมก็ต้องเดินทางกลับไทยในระยะยาวขึ้นเมื่อประมาณเดือนตุลาคมปีที่แล้วความตึงเครียดจึงดีจริงเด่นกลับมาอีก ครั้งเมื่อสุดที่ด่ากับสิ่งนี้หน้าพร้อมด้วยนางเจอในฮาเร็มต้องมาอยู่ในที่เดียวกันเป็นเวลาหลายเดือนและสถานการณ์ก็ไม่ได้ดีขึ้นเลยแม้ว่าวชิราลงกรณ์จะออกงานกรณีกิจต่างๆพร้อมด้วยทั้งสองคนแต่กลับโดยน่ากระอักกระอ่วนมากกว่าสุทธิดานั้นงดออกสื่อสาธารณะชนเป็นเวลาหลายเดือนตั้งแต่ช่วงธันวาคมจนถึงกุมภาพันธ์ซึ่งสร้างความกังวลถึงกับความปลอดภัยของเธอแหล่งข่าวระดับสูงในวังแต่ว่าสัญญาณความไม่ปกติและไม่ลงรอยกันในระหว่างยังมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง วชิราลงกรณ์ได้เผยแพร่รูปวาดประหลาดบนกระดาษโน๊ตที่มีตาราชวงศ์คู่ครองเขากับก้อยในรูปแสดงตัวเขาเองใช้ชีวิตคู่ยังสามีภรรยาร่วมกันกับก้อยอย่างหวานชื่นและไม่มีวี่แววของสุดที่ด่าในรูปนั้นเลยเมื่อเดือนมีนาคมผ่านFacebookโดยย่นworldThailandรายงานว่ามีคำสั่งห้ามพระศพนี้ก่อนที่เข้าเฝ้าหรือรับเสด็จระหว่างที่เขาออกงานโชว์รูปภาพหรือรูปเขาคู่กับพระราชินีรวมถึงห้ามถือป้ายไฟLEDที่เรารักพระราชินีด้วยป้ายLEDนี้เป็นที่นิยมในหมู่คนรักเจ้า ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาแต่เหมือนก้อยจะไม่พอใจที่ตัวเองไม่อยู่ในป้ายไฟหรือสรุปการเชียร์ของแฟนคลับราชวงศ์พวกนี้ก็เลยสั่งห้ามไปให้หมดเลยที่2ชั้นบนสุดของโรงแรมมัลดีฟรวมถึงพื้นที่ส่วนใหญ่ของโรงแรมหรูอย่างถูกจองไว้ให้สุดที่าและข้าราชบริพังของเธอไปตลอดปีและถึงแม้ว่าชีวิตของเธอส่วนใหญ่ที่นั่นจะดูหม่นหมองขาดอะไรซึ่งเสรีภาพและต้องอยู่กับความกลัวความคืบกระดาษของวชิราลงกรณ์อยู่ตลอดเวลาแต่ว่ามันก็น่าจะดีกว่าอยู่ในศึก
โอกาสที่ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวรรณดี จะได้กลับคืนสู่ราชวงศ์มีหวังหรือไม่
ของท่านผู้หญิงศรีรัศวดี พระวรชายาย้อนไปเมื่อเราต้นปี 2545 เชื่อ ว่าประชาชนชาวไทยก็ยังจำกันได้เป็นอย่าง ดีเมื่อทรงมีพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้า มหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมารพระอิสริยยศในขณะนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้คณะ สื่อมวลชนเข้าเฝ้าเพื่อรับทราบข้อมูลที่ ถูกต้องเกี่ยวกับชีวิตครอบครัวของพระองค์ และในคราวนั้นนับเป็นครั้งแรกที่ส่งให้ สื่อมวลชนได้รู้จักกับหม่อมศรีรัตน์มหิดล ณอยุธยา การในโอกาสที่หม่อมศรีรัตน์เข้ารับพระ ราชทานปริญญาบัตรสาขาวิทยาการจัดการจาก มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช พระองค์ทรงตรัสว่าทรงอยู่กับหม่อม ศรีรัตน์มาตั้งแต่ปี 2536 ดูใจและศึกษา กันมายาวนานและเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2544…
อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ จ่ายชดเชย 305 ล้าน กรณีโครงการจำนำข้าว
อดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทักทายผู้สนับสนุนขณะเดินทางมาถึงศาลฎีกาในกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย วันที่ 1 สิงหาคม 2560 REUTERS/Athit Perawongmetha/File Photo ซื้อสิทธิ์ อนุญาต, เปิดแท็บใหม่ กรุงเทพฯ 22 พ.ค. (รอยเตอร์) – ศาลไทยมีคำสั่งเมื่อวันพฤหัสบดีให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ลี้ภัยอยู่ในต่างแดน จ่ายค่าเสียหาย…
“ลำไย ไหทองคำ” เคลื่อนไหวเเล้ว หลัง “บิลลี่ โอแกน” พูดไม่ไว้หน้า จนอายคนทั้งประเทศ !
เป็นอีกประเด็นร้อนแรง ที่มีคนพูดถึงกันอย่างมาก สำหรับ ลำไย ไหทองคำ หลังจากมิวสิควีดีโอเพลงเจ็บตรงนี้ (กดให้น้องแหน่) ได้เผยแพร่ออกไป ก็ถูกชาวโซเชียลคอมเม้นท์สนั่นหวั่นไหว เพราะเนื้อหาเอ็มวีค่อนข้างส่อแวว โดยลำไยส่งเสียงโดนว่า นี่เอ็มวีหรืออะไรกันแน่ โดยงานนี้ ลำไย เผยว่า เอ็มวีเพลงเจ็บตรงนี้เป็นเรื่องของการที่เราปวดเมื่อยก็ไปนวดแผนไทย มีฉากที่ทำให้ดูมีสีสันเพื่อความสนุกสนาน พอมีข่าวออกมาบอกเหมือนเล่นหนัง หนูงงมากว่าทำไมว่า หนูแรงขนาดนี้ได้เข้าไปดูเอ็มวีหรือยังหนูไม่ได้แก้ผ้านะ ชุดที่ใส่ก็เหมือนชุดที่เค้าใส่กันทั่วไปเวลานวด ก็แอบเสียใจนะเราทำเพลงมาให้ดูเพื่อความบันเทิง เพื่อความผ่อนคลายแต่เอาไปพูดถึงกันอย่างมาก มาว่าหนูเสียๆหายๆ…
ศรีรัศมิ์ สุวะดี คอนเฟิร์มคัมแบ็ก? วิสัยทัศน์ของพระสงฆ์สร้างความตกตะลึงให้กับประเทศไทย!
กลางค่ำคืนหนึ่งของฤดูแล้งแสงจันทร์สีเงินสาดส่องลงมาบนยอดไม้นะสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในภาคเหนือของไทยที่นั่นมีพระภิกษุชราเพียงรูปเดียวนั่งนิ่งอยู่ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ท่ามกลางความเงียบงันที่แม้เสียงจิ้งหรีดก็ไม่กล้ารบกวนท่านนั่งสมาธิอยู่นานหลายชั่วโมงจนจิบเข้าสู่ภาวะสงบลึกบางคนอาจเรียกมันว่าฌานแต่ท่านไม่เคยให้คำนิยามท่านเพียงรับรู้ว่าใจของตนได้หลุดพ้นจากกายหยาบชั่วขณะหนึ่งและในห้วงความเงียบนั้นเองภาพของผู้หญิงคนหนึ่งก็ปรากฏ ขึ้นไม่ใช่ภาพหลอนไม่ใช่ความฝันแต่เป็นภาพเงาแห่งกรรมที่สว่างไสวอยู่ในกลางใจของท่านหญิงสาวผู้นั้นนั่งนิ่งอยู่กลางสะพานไม้เก่าแก่ทอดยาวข้ามแม่น้ำสะพานที่ไม่มีชื่อและแม่น้ำที่ไม่มีต้นสายหรือปลายทางใบหน้าเธอสงบราวกับยอมรับในชะตารมแต่สายตากลับเปลี่ยนด้วยอะไรบางอย่างที่ลึกเกินกว่าคำพูดใดจะอธิบายได้พระภิกษุมองเงานั้นอยู่เนิ่นนานก่อนที่เสียงหนึ่งจากภายในจิตจะดังขึ้นหญิงผู้นี้คือผู้เคยสถิตในวังหลวงเมื่อหายไปท่านก็ลืมตาขึ้นทว่าแสง จันทร์กลับสว่างจ้ามากกว่าที่ควรจะเป็นชื่อศรีรัตน์ปรากฏขึ้นในใจของท่านวันถัดมาตอนที่มีญาติโยมนำหนังสือพิมพ์เก่ามาถวายใช่นั่นคือครั้งแรกที่ท่านเชื่อมโยงสิ่งที่เห็นในสมาธิกัปโลกภายนอกศรีรัตน์สุวดีอดีตพระชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชที่หายไปจากชีวิตสาธารณะอย่างเงียบงันและที่สำคัญเธอคือบุคคลที่ปรากฏในนิมิตของท่านโดยไม่ตั้งใจแต่นั่นคือสัญญาณแรกสัญญาณที่จักรวาลเริ่มสื่อสารพระภิกษุท่านนั้นไม่ได้พูดมากท่านเพียงบันทึก นิมิตลงในสมุดจดเล่ม1พร้อมเขียนไว้เพียงประโยคเดียวใต้ภาพร่างของหญิงสาวที่นั่งอยู่กลางสะพานจิตแห่งสตรีที่ยังไม่ถึงการของเธอเดือนถัดมานิมิตกลับมาอีกครั้งครั้งนี้สะพานที่เคยนั่งอยู่กลางน้ำเริ่มสั่นไหวเสียงลมดังมาแต่ไกลและแสงทองสาดส่องลงมาจากทิศตะวันออกหญิงสาวในนิมิตเงยหน้าขึ้นช้าๆแววตาเธอไม่เศร้าไม่หวังแต่หนักแน่นราวกับเธอกำลังรอคำเรียกจากสิ่งที่ใหญ่กว่าเธอเองพระภิกษุในสำนักเงียบแห่งนั้นจึงได้เขียนบันทึกอีกครั้ง ว่าแสงของผู้ถูกลืมไม่ได้ดับไปแต่กำลังสะสมพลังเพื่อกลับมาอย่างสง่างามนี่คือจุดเริ่มต้นของคำทำนายที่สั่นคลอนหัวใจคนไทยจำนวนไม่น้อยไม่ใช่ด้วยความหวาดกลัวแต่ด้วยความสงสัยที่ฝังลึกหากหญิงผู้นั้นคืออดีตพระชายาหากนิมิตนั้นเป็นของจริงหากทุกภาพเงาในสมาธิคือกระจกเงาที่สะท้อนความจริงของต่อแล้วความเงียบที่ห่อหุ้มชื่อศรีรัตน์สุวดีมาตลอดเกือบทศวรรษอาจไม่ได้หมายถึงจุดจบแต่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการกลับมาที่สังคมไทยไม่เคยคาดคิดอย่า ดูถูกความเงียบเพราะบางครั้งความเงียบนั้นคือเสียงของจักรวาลนั่นคือสิ่งที่พระภิกษุท่านนั้นฝากไว้และนั่นเองคือแสงแรกแสงที่นำพาเราไปสู่เรื่องราวเบื้องลึกของราชวงศ์ผ่านมุมมองของผู้ที่ไม่เคยอยู่ในพระราชวังแต่กลับเห็นสิ่งที่ใครหลายคนไม่กล้าเอ่ยในช่วงเวลาแห่งราชสำนักที่เต็มไปด้วยพิธีและกฎเกณฑ์อันซับซ้อนการปรากฏตัวของหญิงสามัญชนกลับกลายเป็นภาพที่ไม่ธรรมดาทว่าเมื่อศรีรัตน์สุีก้าวเข้าสู่ตำหนักพระราชประวัติของเธอกลายเป็นหัวข้อ ถกเถียงทั้งในราชสำนักและสังคมจากหญิงสาวธรรมดาที่เติบโตตัวในครอบครัวชนชั้นกลางผู้ยึดมั่นในระเบียบวินัยและความเคารพต่อสถาบันศรีรัตน์ไม่ได้เพียงเข้ารับการศึกษาเท่านั้นแต่เธอยังบ่มเพาะความเข้าใจในธรรมชาติของอำนาจผู้คนในราชสำนักหลายคนในยุคนั้นเรียกเธอว่าหญิงที่ไม่เคยยกเสียงแต่ทำให้ทั้งตำหนักหยุดพูดได้ท่าทีของเธอเงียบสุภาพเรียบง่ายแต่มีพลังประหลาดบางอย่างที่ทำให้ผู้คนต้องหยุดมองมีบางคนกล่าวว่าเธอไม่ได้เรียนรู้วิธี อยู่ในวังเธอเพียงเงียบพอที่จะเข้าใจมันเมื่อได้รับการแต่งตั้งเป็นพระชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชขณะนั้นศรีรัตน์ถูกจับตามองอย่างเข้มข้นทั้งจากสื่อสาธารณชนและราชวงศ์เองในสายตาประชาชนมากมายเธอคือตัวแทนของความหวังเธอคือดอกไม้ที่ถูกเลือกจากทุ่งยากมาอยู่ในแจ๊กันทองแต่ในทางกลับกันสำหรับผู้ที่อยู่ในโลกแห่งพิธีราชเธอคือแรงสั่นไหวเพราะเธอไม่ใช่ผู้ที่เติบโตมาพร้อมกับเลือดของวังแต่กลับกลายเป็นผู้ที่ได้อยู่ใกล้พระราชบัลลังก์มากที่สุดภารกิจของเธอ ไม่ได้ง่ายการปรากฏตัวในงานราชพิธีสำคัญการยืนเคียงข้างองค์รัชทายาทการแสดงตนในฐานะผู้เป็นแม่ของพระราชโอรสล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยดวงตาหลายพันคู่ที่จ้องมองทุกก้าวย่างของเธอและนั่นนั่นเองคือพายุที่เธอเผชิญในวังที่ทุกการขยับมือมีความหมายเธอไม่เคยพลาดแม้เพียงเสี้ยววินาทีแต่แล้วพายุที่แท้จริงไม่ได้มาจากพิธีแต่มาจากความเงียบจู่ๆท่านผู้หญิงศรีรัตน์ก็หายไปจากทุกหน้าสื่อชื่อของเธอค่อยๆถูกลบจากข่าวราชสำนักไม่มีการประกาศไม่มีการ บอกกล่าวมีเพียงความเงียบที่แผ่ปกคลุมทุกมุมของประเทศและในช่วงเวลานั้นเองบันทึกของพระภิกษุจากภาคเหนือก็เริ่มแพร่สะพัดคำทำนายที่เขียนด้วยลายมือเรียบง่ายระบุว่าหญิงผู้เคยยืนใต้ธงจักรีจะกลับมาไม่ใช่เพื่ออยู่ใต้ร่มเงาแต่เพื่อเป็นผู้สร้างเงาใหม่ให้เกิดขึ้นบนแผ่นดินนี้คำเหล่านี้ถูกตีความต่างๆนานาบางคนบอกกว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อบางคนกลับเชื่อว่ามีมูลและในเวลานั้นไม่มีใครกล้ายืนยันว่าหญิงในคำนายคือใครแต่มีหลายคนเริ่มตั้งคำ ถามว่าทำไมชื่อศรีรัตน์สุวดีอิฐจึงถูกพูดถึงซ้ำแล้วซ้ำเล่าในวงสนทนาเล็กๆในแวกวงของพระในห้องเรียนของผู้สนใจโหรศาสตร์และแม้แต่ในใจของประชาชนที่ยังไม่ลืมภาพเธอในชุดราชสำนักสีขาวภาพหญิงสาวในราชพิธีที่สงบนิ่งแก่ทรงพลังกลายเป็นเงาที่ยังไม่จางหายจากความทรงจำของสังคมไทยและบางคนเริ่มรู้สึกว่าความเงียบของเธออาจไม่ใช่จุดจบแต่อาจเป็นคำถามที่กำลังรอคำตอบในวังหลวงที่เงียบงันและในหัวใจของประชาชนที่ยังจำชื่อหนึ่งยังไม่เคยหายไป ศรีรัตน์สุวดีหลังจากวันนั้นไม่มีใครพบเห็นศรีรัตน์สุวดีในพื้นที่สาธารณะอีกเลยภาพถ่ายสุดท้ายของเธอในงานพิธีหลวงกลายเป็นหลักฐานชิ้นสุดท้ายที่สื่อใช้ในทุกบทความย้อนหลังเธอไม่เคยออกมาให้สัมภาษณ์ไม่มีถ้อยแถลงไม่มีโต้แย้งมีเพียงความเงียบที่ดำรงอยู่อย่างมั่นคงแต่ในขณะที่โลกภายนอกเงียบโลกภายในของเธออาจกำลังเปลี่ยนไปทีละน้อยหลายคนในแวดวงสื่อเรียกสิ่งนี้ว่าการหายไปอย่างมีศักดิ์ศรีบางคนบอกกว่าเธอเลือกที่จะวางตัวเช่นนี้เพื่อปกป้องสิ่ง สำคัญที่สุดในชีวิตนั่นคือพระโอรสและบางคนเชื่อว่านี่คือจังหวะของดวงดาวที่กำลังรอวันกลับมาในหมู่บ้านเล็กบ้านเล็กทางภาคตะวันออกของประเทศไทยมีคนอ้างว่าเคยเห็นหญิงคนหนึ่งหน้าตาละไม้คล้ายกับเธอเธอนั่งทำบุญเงียบๆในวัดไม่แต่งกายหรูหราไม่แสดงตนและหายตัวไปก่อนใครจะได้ถามชื่อข่าวลือเหล่านี้ถูกปัดตกจากสื่อกระแสหลักแต่มันแพร่กระจายทางปากต่อปากอย่างรวดเร็วในขณะเดียวกันคำนายจากพระภิกษุชราในภาคเหนือก็เริ่มเป็นที่กล่าวถึงในโลกออนไลน์ ข้อความหนึ่งที่ได้รับการแชร์มากที่สุดคือผู้ที่เคยเป็นดอกไม้ในราชสำนักจะกลับมาในฐานะผู้นำแสงสว่างให้แก่ดินแดนไม่ใช่ในนามแต่ในสัญลักษณ์หลายคนถามว่าคำว่าผู้นำแสงสว่างหมายถึงอะไรบางคนตอบว่าอาจหมายถึงการกลับมาในสถานะใหม่ไม่ใช่ใช่ฐานอันดรแต่เป็นบทบาททางสังคมบางคนบวอาจเป็นสัญญาณว่าเธอจะกลับมาพร้อมอุดมการหรือภารกิจเฉพาะบางอย่างในหมู่ผู้สูงวัยที่เคยเฝ้าติดตามข่าวของราชวงศ์บางคนยังเก็บภาพของเธอไว้และกระซิบกับหลานว่าอย่าดูถูกคนที่หายไป เพราะบางทีเขากำลังถูกฟ้าหล่อหลอมภาพของศรีรัตน์สุวดีกลายเป็นภาพที่ผสมผสานระหว่างความคิดถึงความเคารพรบและปริศนาความเงียบของเธอไม่ได้กลายเป็นเครื่องมือของการลืมแต่กลายเป็นความเงียบที่คนทั้งประเทศยังจำและในความเงียบนั้นเองคำถามเริ่มดังขึ้นในใจของใครหลายคนเธอยังอยู่ดีหรือไม่เธอกำลังคิดอะไรอยู่เธอรู้หรือไม่ว่าชื่อของเธอยังถูกกล่าวถึงในทุกการสนทนาเกี่ยวกับอนาคตของราชวงศ์บางทีเธออาจรู้แต่เลือกที่จะไม่ตอบบางที เธออาจกำลังรอเวลาที่เหมาะสมเวลาที่ฟ้าดินและหัวใจของประชาชนพร้อมจะฟังเสียงของเธออีกครั้งบางครั้งความเงียบของใครบางคนไม่ใช่เพราะเขาไร้เสียงแต่เพราะเสียงของเขายังไม่ถึงเวลาศรีรัตน์ในวันนี้อาจไม่ได้อยู่ใต้แสงแฟดแต่อยู่ใต้แสงจันทร์ที่เงียบงันแต่ส่องแสงเสมอและบางทีในเงานั้นเองอนาคตกำลังงอกงามในช่วงปลายปีที่ผ่านมาณวัดป่าเล็กๆแห่งหนึ่งที่โอบล้อมด้วยหมอกและเสียงระฆังยามรุ่งพระภิกษุชราผู้หนึ่งได้กล่าวคำทำนายไว้หน้าพระประธานคำ พูดของท่านไม่ได้ถูกส่งผ่านกล้องถ่ายทอดสดแต่ถูกจดบันทึกด้วยมือของลูกศิษย์คนหนึ่งซึ่งต่อมากลายเป็นต้นฉบับของบทความที่ถูกแชร์ไปทั่วสื่อออนไลน์เธอจะกลับมาในวันที่ไม่มีใครคาดคิดด้วยรูปแบบที่ไม่มีใครเดาได้แต่เมื่อแผ่นดินดินสั่นเบาๆและแสงอ่อนแสงอ่อนส่องจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือจงรู้ไว้ว่าจักรวาลเริ่มหมุนกลับเสียงนี้ไม่ใช่เสียงของการชี้นำแต่เป็นเสียงของการสังเกตจากจิตวิญญาณที่ผ่านสมาธิพระภิกษุท่านนี้เป็นที่รู้จักใน หมู่ลูกศิษย์ว่าเป็นผู้ไม่พูดพร่ำและไม่เคยเอ่ยชื่อของใครในคำทำนายแต่ครั้งนี้คำว่าดอกไม้ขาวในวังทองปรากฏอย่างเด่นชัดในสมุดจานของท่านผู้คนเริ่มตีความใครคือดอกไม้ขาวหากไม่ใช่ศรีรัตน์สูดีแล้วจะเป็นใครข้อความอีกประโยคหนึ่งที่สั่นสะเทือนใจคือหญิงผู้ถูกถอนจะปรากฏใหม่มิใช่ด้วยพระบรมราชโองการแต่ด้วยพลังแห่งศรัทธาที่ไม่มีใครห้ามได้ทันใดนั้นกระแสก็เริ่มเปลี่ยนสื่อบางแขนงเริ่มเปิดพื้นที่ให้บทสัมภาษณ์เชิงจิตวิญญาณรายการYouTubeบางช่องเชิญเชิญหมอ ดูอาจารย์โหราศาสตร์และพระภิกษุร่วมวิเคราะห์การกลับมาของศรีรัตน์กลายเป็นประเด็นที่พูดถึงด้วยความเคารพมากกว่าความขัดแย้งไม่มีใครอ้างสิทธิ์ว่าเธอควรหรือไม่ควรกลับมาแต่ทุกคนเริ่มตั้งคำถามว่าหากเธอกลับมาบทบาทใหม่ของเธอจะคืออะไรคำถามนี้ไม่เคยมีคำตอบแต่มีนิมิตหนึ่งที่ทำให้ผู้คนเริ่มคิดลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดพระพิกสุเล่าว่าคืนหนึ่งขณะที่พระอาจารย์ปฏิบัติธรรมในป่าท่านเห็นเงาหญิงผู้นั่งห่มผ้าแพรสีฟ้าในมือเธอมีแจ๊กันดินที่ เต็มไปด้วยเมล็ดพันธุ์และเธอค่อยๆวางแจ๊กันนั้นไว้ตรงหน้าพระพุทธรูปนิมิตนั้นถูกตีความว่าหญิงผู้นั้นไม่ได้กลับมาเพื่อรับแต่กลับมาเพื่อมอบไม่มีตำแหน่งไม่มีรากฐานมีเพียงบทบาททางใจผู้ปลูกเมล็ดแห่งความหวังใหม่นี่ไม่ใช่การกลับมาเพื่อทวงคืนแต่เพื่อเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายในใจของผู้คนที่ยังศรัทธาในความเมตตาแม้ไม่มีชื่อปรากฏแม้ไม่มีตราประทับจากราชสำนักแต่เสียงจากหมู่บ้านเล็กบ้านเล็กไปจนถึงเมืองหลวงพูดถึงการกลับมาของศรีรัตน์ใน ฐานะหญิงผู้เปลี่ยนแปลงด้วยความเงียบและคำทำนายที่กล่าวไว้เธอจะกลับมาไม่ใช่เพื่ออยู่ใต้ร่มพระบารมีแต่เพื่อสร้างเงาเย็นให้กับผู้ที่หมดหวังอาจไม่ใช่เพียงนิมิตแต่อาจเป็นสัญญาณว่าการกลับมาครั้งนี้จะไม่ใช่เรื่องของอำนาจแต่เป็นเรื่องของหัวใจไม่มีคำนายใดจะทรงพลังหากปราศจากการเปลี่ยนแปลงและไม่มีการกลับมาใดจะไร้ผลสะเทือนหากหัวใจของผู้คนยังเต้นอยู่กับความหวังการปรากฏซ้ำของชื่อศรีรัตน์สูดีในบทสนทนาของสังคมไทยไม่ได้เกิดจากการโหย หาอดีตแต่เป็นเพราะปัจจุบันยังไม่มีใครตอบคำถามของอนาคตได้หากคำทำนายเป็นจริงหากหญิงผู้หายไปจากราชสำนักจะกลับมาในรูปแบบใหม่อะไรจะเกิดขึ้นกับโครงสร้างของราชวงศ์ไทยการสืบสันตติวงศ์จะเปลี่ยนทิศทางหรือไม่ศรัทธาของประชาชนจะหันกลับไปสู่ใครแม้คำตอบจะยังไม่ชัดเจนแต่สิ่งที่ปรากฏชัดคือแรงสั่นไหวทางอารมณ์ของสังคมในหมู่ผู้สูงวัยศรีรัตน์ยังถูกจดจำในฐานะหญิงที่ไม่โต้แย้งในสายตาของคนรุ่นใหม่เธอคือตัวแทนของความเงียบที่ไม่ยอมแพ้ใน สายตาของนักจิตวิทยาสังคมต่อเธอคือภาพสะท้อนของคนไทยที่อยู่กับความเปลี่ยนแปลงด้วยศักดิ์ศรีและในมุมมองของนักโหรศาสตร์การเคลื่อนของดาวศุกร์ในปีนี้สอดคล้องกับการปลดปล่อยเงาที่เคยซ่อนอยู่ใต้พื้นน้ำมานานหากคำทำนายนี้เป็นจริงอาจไม่ใช่เพียงการกลับมาของบุคคลแต่คือการกลับมาของพลังทางสัญลักษณ์ที่มีผลต่อทั้งระบบผู้เชี่ยวชาญบางคนเปรียบการกลับมาของศรีรัตน์ว่าเป็นเหมือนการปรากฏของดวงจันทร์ในคืนเดือนแรมไม่ได้ให้แสงมากแต่พอ จะทำให้ผู้หลงทางเห็นเส้นทางอีกครั้งบางทีคนที่ไม่ต้องการอะไรอีกแล้วต่างหากที่พร้อมจะมอบทุกอย่างให้ผู้อื่นและหากวันหนึ่งศรีรัตน์ปรากฏอีกครั้งไม่ใช่ในฐานะอดีตพระชายาไม่ใช่ในฐานะผู้ถูกกลมแต่ในฐานะผู้สร้างแรงบันดาลใจที่แท้จริงราชสำนักไทยอาจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปสิ่งที่ควรตั้งคำถามต่อจากนี้คือประเทศไทยพร้อมสำหรับสตรีที่กลับมาโดยไม่มีพระบรมราชโองการหรือไม่ราชสำนักสามารถปรับตนให้สอดคล้องกับศรัทธาของประชาชนหรือไม่ และสำคัญที่สุดประชาชนต้องการอะไรจากการกลับมาครั้งนี้เราไม่ได้เรียกร้องตำแหน่งให้ใครแต่เราเฝ้ารอความจริงใจจากใครบางคนที่ไม่เคยพูดแต่เรายังเชื่อว่าเธอมีอะไรจะบอกในท้ายที่สุดบทสรุปของเรื่องนี้อาจไม่ได้จบลงที่ประกาศจากสำนักพระราชวังแต่อาจลงที่หัวใจของประชาชนศรีรัตน์ไม่จำเป็นต้องกลับมาเพื่อครองตำแหน่งใดแต่เธออาจกลับมาเพื่อยืนยันว่าสตรีที่เคยถูกลืมสามารถกลายเป็นแสงน้ำทางให้คนทั้งแผ่นดินได้อีกครั้งเสียงกระซิบของคำทำนายยัง…
กลับมาสวย! เจ้าหญิงศรีรัศมิ์ทรงฟื้นคืนสถานะและจะกลับมาอีกครั้ง ชาวไทยตั้งตารอ!
หลังจากห่างหายไป8ปีถนนกลับของศรีรัศมีเต็มไปด้วยความยากลำบากอย่างเห็นได้ชัดในช่วงเวลานี้สมเด็จพระนางเจ้าสุธิดาทรงครองราชยสืบราชสมบัติได้2ปีความสามารถและสถานะของพระองค์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดด้วยการสนับสนุนจากตระกูลยูกุลสถานการณ์สืบราชสันตติวงศ์ก็แข็งแกร่งขึ้นขณะเดียวกันพระองค์ก็ทรงแสดงความกังวลเกี่ยวกับการกลับมาของศรีรัตมิตอย่างไรก็ตามพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่10ยังคงทรงมุ่งมั่นที่จะใช้กำลังทั้งหมดของพระองค์จัด มาตรการต่างๆเพื่อต้อนรับศรีรัตน์มีกลับคืนสู่ราชวงศ์และเพิ่มอิทธิพลของพระองค์การสืบทอดอำนาจของทีปังกรมีความสำคัญต่อแผนนี้หากเขาสวงมงกุฎได้สำเร็จเขาจะกลายเป็นรัชทายาทตามกฎหมายของราชวงศ์ซึ่งเป็นวิธีการฉดใช้หนี้ในอดีตของเขาที่มีต่อศรีรัตมีแผนของรัชกาลที่10นี้แสดงความปรารถนาอย่างจริงใจที่จะกลับมารวมตัวกับอดีตราชินีและตระหนักถึงความเป็นไปได้ที่จะกลับมารวมตัวอีกครั้งบังเอิญที่การจากไปของศรีรัศมีนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้ง สำคัญในฮาเร็มของราชวงศ์สุธิดาขึ้นครองราชย์เป็นราชินีเธอขึ้นครองบัลลังก์ด้วยความสามารถและอุบายของเธอเองและเธอก็กลายเป็นบุคคลสำคัญในสงครามฮาเร็มอีกด้วยอย่างไรก็ตามการกลับมาของศรีรัตน์จะทำให้รูปร่างของฮาเร็มเปลี่ยนไปอีกครั้งซึ่งเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับสมเด็จพระนางเจ้าสุธิดาสุธิดาพยายามขัดขวางการกลับมาของศรีรัตน์มิด้วยการแสดงปริญญาเอกและความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับในหลวงรัชกาลที่10เธอหวังจะเน้นให้เห็นถึงความสามารถที่เพิ่มขึ้นของ เธอในช่วง2ปีนับตั้งแต่ขึ้น ้องราชแต่อย่างไรก็ตามกษัตริย์ไทยก็ดูเหมือนจะชอบศรีรัตมิซึ่งมีสถานะอยู่ในใจมากกว่ารัชกาลที่10ทรงดำเนินการอย่างเด็ดขาดในเวลาเพียง2ปีพระองค์ทรงสถาปนาเจ้าหญิง5พระองค์และนางสนม22พระองค์ซึ่งดูเผินผนดูเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของความสุขแต่พระอารมณ์ของรัชกาลที่10ขณะทรงรักษาตัวในโรงพยาบาลทำให้เขามีความเข้าใจลึกซึ้งลึกซึ้งถึงความอบอุ่นความอบอุ่นแห่งธรรมชาติของมนุษย์การกลับมาของศรีรัตมิจะ ทำให้เกิดการแย่งชิงอำนาจในวังอีกครั้งข้อปี่พาทย์ในฮาเร็มจะรุนแรงขึ้นมีบางคนที่อยากจะหนีปัญหาในฮาเร็มเหมือนศรีรัตมิพวกเขาท้อแท้หัวใจมาเป็นเวลานานในตอนแรกศรีรัตน์มีปฏิเสธคำเชิญของรัชกาลที่10แต่ทรงดูสงบมากความสงบของพระองค์มาจากภาวะที่กลื่นไม่เข้าคายไม่ออกของการสืบราชสันตติวงศ์ของทีบังกรในระหว่างการพักฟื้นเมื่อเจ้าฟ้าผัรกิตติยาพาแย่งชิงราชบัลลังก์ของมกุฎราชกุมารซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อิบังกรอย่างไรก็ตามการจัดแจงอย่างเชี่ยว ชาญของรัชกาลที่10ได้เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งเขาไม่เพียงส่งทีปังกรไปเชียงใหม่เพื่อพบกับศรีรัตมิและแม่ของเธอเท่านั้นแต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ศรีรัตมิอีกด้วยการกระทำของกษัตริย์ไทยสร้างความประทับใจอย่างมากต่อศรีรัตน์มิู้ลังเลและในที่สุดก็ทำให้เขาตัดสินใจกลับไปตั้งถิ่นฐานที่พระตำหนักนี่เป็นก้าวสำคัญในการกลับมาของศรีรัตน์และเป็นการแสดงความกตัญญูต่อมารดาของทีปังกรด้วยทีปังกรก่อนโพสต์ภาพตัวเองคุกเข่าโค้งคำนับบนโซเชียลเน็ตเวิร์กแสดงความ กตัญญูต่อแม่และนางสนมพระองค์ยังทรงแสดงท่าทีตีตัวออกห่างจากพระนางสุธิดาเพื่อเตรียมรับการเสด็จกรับของศรีรัตมิรัชกาลที่10และพระบรมวงศานุวงศ์ทรงเผยแพร่โปรดเตอรแสดงสถานะอันสูงสงของศรีรัตน์การกลับมาของศรีรัตน์มิกลายเป็นงานที่ทุกคนตั้งตารอคอยแม้ว่ารัชกาลที่10จะมีบุคลิกที่เข้าใจยากแต่โปดเตอร์ของราชวงศ์ก็แสดงให้เห็นสถานะของศรีรัตน์นี้อย่างชัดเจนการครั้งหนึ่งสุธิดาและสินีนาทะเลาะกันอย่างดุเดือดเพื่อชิงความโปรดปรานจาก รัชกาลที่10แต่ในหลวงทรงเลือกที่จะเมินเฉยและปล่อยให้มันผ่านไปตราบเท่าที่ไม่มีปัญหาใหญ่อย่างไรก็ตามโปเตอร์ของราชวงศ์ล่าสุดได้เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างรัตนิกายเป็นวีรแลสัตรีเพียงคนเดียวที่เธอครองใจกษัตริย์ไทยโดยไม่ต้องต่อสู้เพื่อมันด้วยซ้ำรัชกาลที่10ทรงสถิตอยู่กับสตรีมากมายในชีวิตแต่หัวใจของพระองค์ยังเป็นของศรีรัตน์มีเสมอแล้วเหตุใดรัชกาลที่10ถึงรักศรีรัตน์มีมากขนาดนี้อะไรที่ทำให้ศรีรัตน์ิทำให้เธอนึกถึงรัชกาลที่10และ อ่อนโยนขนาดนี้ฉันจะพาคุณย้อนเวลากลับไปเพื่อชี้แจงทุกอย่างสรมีเกิดในครอบครัวชาวนาในประเทศไทยเนื่องจากรูปร่างหน้าตาที่สวยงามของเธอพ่อแม่ของเธอจึงรักเธอมากซึ่งทำให้เธอมีชีวิตที่ไม่ธรรมดาในปีพ.ศ2544ศรีอัรมีอภิเษกสมรสกับรัชกาลที่10และเป็นพระมเหสีคนที่3แต่ชีวิตในราชวงศ์ไม่ใช่เรื่องง่ายในปีพุทธศักราช2557ครอบครัวศรีรัศมีตกอยู่ในวังวนแห่งการแข่งขันชิงกษัตริย์เจ้าหน้าที่ที่ถูกจับกุม22คนมี3คนเป็นน้องชายของ ศรีรัตน์สมาชิกในครอบครัวของศรีรัตน์มิก็ถูกจับกุมเช่นกันศรีรัตนี้ิมีบางส่วนก็หนีความสัมพันธ์นี้ไปไม่ได้เช่นกันหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวศรีรัศมีถูกขับออกจากราชวงศ์และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาที่10ทรงอยากกับเธอรัตน์ไม่เสียใจจึงตัดสินใจบวชชีและปฏิบัติธรรมในวัดนึกว่าเจ้าหญิงศรีรัตน์จะหายตัวไปแต่ล่าสุดสถานีโทรทัศน์ไทยโพสต์ภาพสวยๆของศรีรัตน์ลงโซเชียลการเคลื่อนไหวนี้ทำให้ชาวเน็ตสงสัยว่าศรีรัตน์กำลังจะกลับคืนสู่ราชวงศ์ไทยหรือ ไม่ความงามของศรีรัตน์นี้เป็นที่รู้จักของทุกคนและรัชกาลที่10ก็แต่งงานกับเธอเพราะความงามของเธอสถานีโทรทัศน์ไทยถ่ายทอดภาพศรีรัตวิและวิดีโอของศรีรัตมิและมหาที่เข้าร่วมกิจกรรมการกุศลเป็นประจำถือเป็นล่างสังหรณ์ของการกลับมาอย่างแข็งแกร่งการกลับมาอันงดงามของเจ้าหญิงศรีรัตนมิไม่เพียงแต่บ่งบอกถึงรูปลักษณ์ที่มีเสน่ห์ของเธอเท่านั้นแต่ยังแสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งและสติปัญญาจากภายในอีกด้วยด้วยประสบการณ์และความอุตสาหะของ เธอเธอเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนมากมายก้าวไปข้างหน้าต่อไปไม่ว่าพวกเขาจะเผชิญกับความยากลำบากใดก็ตามเมื่อครอบครัวของเธอถูกจับกุมเธอได้เขียนจดหมายถึงกษัตริย์อย่างกระตือรือร้นเพื่อขอสละตำแหน่งพระราชแม้ว่าในเวลานั้นจะมีข่าวหรือว่าศรีรัตน์มีถูกใกล้ออกจากราชวงศ์แล้วศรีรัตนี้ไม่ได้ให้คำอธิบายใดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้และได้แต่อยู่ในวัดอย่างเงียบๆเพื่อรอโอกาสเรื่องราวของเจ้าหญิงศรีรัตน์บอกเราว่าความงามไม่ได้อยู่ที่รูปลักษภายนอก เท่านั้นแต่ที่สำคัญกว่านั้นอยู่ที่ความเข้มแข็งและสติปัญญาจากภายในไม่ว่าคุณจะเผชิญกับอุปสรรคและความยากลำบากใดๆจงสงบสติอารมณ์และรักษาศรัทธาอันแรงกล้าเรื่องราวของเธอเป็นตัวอย่างที่แสดงถึงความยืดหยุ่นและความหวังของมนุษย์ไม่ว่าทีมังกรจะขึ้นครองบัลลังก์หรือสรัติห่วนคืนย่อมทำให้เกิดการวิวาทรอบใหม่ในพระราชวังอนาคตของราชวงศ์ไทยเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนแต่สิ่งที่แน่นอนคือใครก็ตามที่ขึ้นครองบัลลังก์จะกลายเป็นบุคคลสำคัญใน ประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ไทยช่วงเวลานี้ถือเป็นจุดเปลี่ยงที่สำคัญในประวัติศาสตร์ไทยและเราจะติดตามเรื่องราวนี้อย่างใกล้ชิดต่อไปในขณะที่มีการพัฒนาในอีกไม่กี่วันข้างหน้าราชวงศ์ไทยจะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และโลกจะได้เห็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์นี้
ทีปังกร รัศมีโชติ เสด็จกลับประเทศไทยกะทันหันเพื่อต้อนรับท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์กลับสู่ราชวงศ์ ?
เวลา9:55นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติมหาวชิโรตมางกูรสิริวบราชกุมารเสด็จไปยังวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามในการนี้ทรงวางพวงมาลัยและ2จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจากนั้นเสด็จเข้าพระอุโบสถทรงวางพวงมาลัยทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธอังคีรสพระประธานพระอุโบสถแล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชรีรางพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้า อยู่หัวพระราชสดรีรางคารสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีพระบรมราชินีในรัชกาลที่7และพระบรมราชชนังคานพระบาทสมเด็จพระบรมนาถมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชพระบรมนาถบพิตรแล้วทรงพระดำเนินไปยังตามหลักอรุณทรงถวา ยธูปเทียนแพแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริตรสาครสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายกถวายศีลจบแล้วทรงกล่าวคำถวายเครื่องสังฆทานส่งประเคนครึ่งสังฆทานโอกาสนี้ถวายการสอนทรงสมาธิการวางสัมผัสและการกำหนดลมหายใจเข้าออกพร้อมส่งสนทนา ธรรมทรงสอบถามถึงพระพลานามัยของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายกและทรงสดับพระโอวาทที่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายกทรงรับพระราชทานถวายวิสัชนาทรงสนองพระบูชาในเรื่องทรงส่วนพระทัย เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาอาทิคำว่าวิชาและอวิชชาต่างกันอย่างไรซึ่งสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายกได้ถวายวิสัชนาคำว่าวิชาหมายถึงความรู้ส่วนอวิชชาหมายถึงความไม่รู้ในทางพระพุทธศาสนาจึงหมายถึงความไม่รู้เหตุของการ ดับทุกข์และไม่รู้จักการดับทุกข์คือไม่รู้เหตุที่ทำให้เกิด
หากพระองค์เจ้าทีปังกรขึ้นเป็นรัชกาลที่ 11 ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์จะมีโอกาสกลับคืนสู่ราชวงศ์หรือไม่ ?
ลายมือศรีรัตน์ถึงนักข่าวขออยู่สงบเงียบ เขียนใส่กระดาษปิดหน้าประตูขอบคุณสื่อที่ ให้ความห่วงใยกำลังปฏิบัติธรรมภายในบ้าน ท่านผู้หญิงศรีรัตน์มีสารเขียนด้วยลายมือ ถึงกองทัพสื่อที่รอทำข่าวหน้าบ้านวัดเพลง ราชบุรีใจความว่าเราขอขอบพระคุณผู้สื่อ ข่าวทุกท่านที่ให้ความเป็นห่วงเป็นใยคอย ติดตามมาเสมอกล่าวขอความกรุณาผู้สื่อข่าว ทุกท่านด้วยช่วงนี้เราขออยู่ปฏิบัติธรรม เงียบๆในบ้านหลังนี้รองครอบครัวด้วยความ สงบค่ะ ภายหลังขอพระราชทานกราบบังคมทูลลาออกจาก ฐานณดอนสักแห่งพระราชวงศ์ความทราบฝ่า ละอองธุลีพระบาทแล้วพระราชทานพระ บรมราชานุญาตตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับทะเบียนฐานันดรประกาศณวันที่ 11 ธันวาคมพ.ศ 2557 โดยสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระ มหากษัตริย์ได้ดำเนินการที่สมเด็จพระ บรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมารมีพระราชประสงค์ขอรับ เงินพระราชทานจากสำนักงานทรัพย์สินส่วน พระมหากษัตริย์เพื่อพระราชทานใช้ในการ…
กบ สุวนันท์ ใจสลาย โพสต์ข้อความทั้งน้ำตา หลังรู้ข่าว!
คนรักช้างใจสลาย น้องกันยา ลูกช้างสุดน่ารักเจ้าของฉายา ลูกสาวแห่งชาติ เสียชีวิตลงแล้ว ท่ามกลางชาวเน็ตแห่แสดงความอาลัยกับการจากไปครั้งนี้ล่าสุด กบ – สุวนันท์ ปุณณกันต์ อีก 1 คนที่ชื่นชอบและติดตามน้องกันยามานาน โพสต์อินสตราแกรม @kob_nada_nadol เศร้า อาลัยน้องกันยา โดนระบุข้อความบอกว่า “วันนี้มีเรื่องให้ร้องไห้แต่เช้า #กันยาลูกสาวแห่งชาติ #กันยานักสู้แห่งภูวัว กลับไปวิ่งเล่นอยู่ดาวช้างแล้ว..ตามดูมาเป็นปี ได้ยิ้มทุกครั้งที่อึ่งไข่น้อยเติบโตขึ้นทุกวัน เล่นกับเมฆา ทะเลาะกับธาริน…
สุจารินี วิวัชรวงศ์ กลับจีนกะทันหัน เตรียมกลับไทย คงมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
รัชกาลที่10ทรงมีความรักอันมั่งคั่งเมื่อยังเยาไวแต่ตอนนี้กลับส่งผลร้ายแรงเด็กส่วนใหญ่นี้พ่อคนเดียวกันและมีความสนใจที่ซับซ้อนอย่างยิ่งซึ่งจะเป็นอันตรายต่ออนาคตของราชวงศ์อย่างแน่นอนราชวงศ์ไทยในปัจจุบันกำลังเดือดร้อนอย่างเห็นได้ชัดเพื่อรวมการปกครองของพระองค์พระรามสิตได้ถวายกิ่งมะกอกแก่พระราชโอรสทั้ง4ของพระองค์ในต่างประเทศชาวเน็ตหลายคนแสดงความเสียใจที่สุกรีหิวิวัชรวงศ์ต้องทนกับความอัปยศอดสูมานานก่อนที่จะหลุดพ้นจากความ มืดสู่แสงสว่างในที่สุดนอกจากนี้ยังสามารถเห็นได้จากภาพถ่ายอย่างเป็นทางการที่เผยแพร่โดยสื่อไทยว่าพระองค์เจ้าสุริณีวิวัชรวงศ์เสด็จกลับมายังกรุงเทพเพื่อสนับสนุนเจ้าชายองค์ที่2ด้วยหลังจากห่างหายจากบ้านเกิดมาเป็นเวลา20ปีในที่สุดเจ้าหญิงองค์ที่2และลูกชายของเธอก็กลับมาและวางแผนที่จะอยู่ต่อเป็นเวลา15วันเพราะเจ้าหญิงองค์ที่2สามารถกลับกรุงเทพฯได้อย่างปลอดภัยเธอจึงต้องได้รับความยินยอมจากในหลวงรัชกาลที่10อีกด้วยดูเหมือนว่าละครในราชสำนักของ ไทยจะน่าตื่นเต้นมากแต่อัตราการเสียชีวิตก็ไม่สูงนักแต่ในหลวงยังคงมีความรักความซื่อสัตย์และไม่เคยทำร้ายภรรยาเก่าของเขาจุดแรกที่เจ้าชายองค์ที่2เสด็จกลับมากรุงเทพคือการสักการะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและถวายพวงมาลาแดกปู่เป็นการส่วนตัวพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตรซึ่งเป็นขุนนางในเชื้อสายของเจ้าหญิงทั้งสทรงแอบสนับสนุนพวกเขาเพื่อให้หลานทั้ง4ของพวกเขาสำเร็จการศึกษาได้สำเร็จวันคล้ายวัน พระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตเป็นวันพ่อของประเทศไทยและท่านอ้นถือโอกาสกลับมาแสดงความเคารพถือเป็นเจตนาของคนขี้เมาที่จะไม่ดื่มสุราอย่างแท้จริงิยนี้ค่อนข้างง่ายวางแผนพรประมาณ2อาทิตย์ท่านอ้นจะเดินทางไปหลายจังหวัดเจ้าหญิงสุจารินีอิวิวัชรวงศ์ก็จะไปกับลูกชายด้วยเมื่อท่านอ้นมีความสุขถึงกับซื้อล็อตเตอรรี่โดยหวังว่าจะโชคดีนอกจากนี้ยังสามารถเห็นได้จากวิดีโออย่างเป็นทางการของที่เกิดเหตุว่าองค์ชาย2มีความสุข มากเขามักจะยิ้มนากล่องอยู่เสมอและเดินทางย้อนนึกถึงช่วงเวลาที่ขมขืนและหวานชื่นตามรายงานของสื่อต่างประเทศเจ้าหญิงสุจาริณีวิวัชรวงศ์ถูกใกล้ออกจากบ้านและถูกกล่าวหักว่าไม่ซื่อสัตย์ด้วยบัดนี้เวลาผ่านไปแล้วเจ้าหญิงยุวธิดากลับประเทศไทยและร่วมปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการกับท่านอ้นส่งสัญญาณอันแรงกล้าให้เราทราบประการแรกลูกชายทั้ง4จากต่างแดนล้วนมีสายเลือดบริสุทธิ์เจ้าหญิงไม่ได้รับผู้พันกองทัพอากาศมันเป็นเพียงกับดักของใคร บางคนอย่างที่2ผู้เล่มจากต่างประเทศ4คนกำลังจะกลับมาและจะถูกใช้งานในลักษณะที่ไม่เคยมีมาก่อนตามรายงานของสื่อไทยเจ้าหญิงทั้งสองและมารดาและธิดาเสด็จไปยังพระราชวังในจังหวัดหนองคายเพื่อเป็นประธานในพิธีทำบุญร่วมกันยุวธิดาในสมัยนั้นผอมและสวยใครๆก็บอกไม่ได้ว่าเป็นผู้หญิงรุ่นคุณยายสวยกว่าสุธิดาเสียอีกครึ่งแรกของชีวิตของยุวธิดาเต็มไปด้วยความขึ้นลงขึ้นลงครึ่งหลังของชีวิตเธอยังติดอยู่กับกับการต่อสู้ในวังประสบการณ์ชีวิตของเธอน่าสนใจมาก กว่าในนิยายจริงๆไม่น่าแปลกใจที่ชาวเน็ตหลายคนคร่ำครวญว่าเจ้าหญิงคนที่2เป็นเพียงเจนฮีวาเวอร์ชั่นภาษาไทยแต่ในที่สุดเธอก็มาถึงช่วงเวลาแห่งการกลับมาอย่างรุ่งโรจน์ของเธอแล้วยุวธิดามาจากครอบครัวปัญญาชนพ่อของเขาเป็นนักแต่งเพลงเด็กที่มีชื่อเสียงในประเทศไทยและเมื่อเขายังเด็กเขาก็เป็นดาราภาพยนตร์ด้วยน่าเสียดายที่เพื่อรักษาบัลลังก์ไว้เป็นมกุฎราชกุมารเขาได้ขับไล่ลูกชายทั้ง4คนอย่างโหดร้ายออกไปดังคำที่ว่าเสือพิษกินเมล็ดพืชไม่ได้เมื่อ ตำแหน่งของกษัตริย์มั่นคงแล้วและไม่มีรัชทายาทพระองค์อาจใช้โอรสจากต่างแดนทั้ง4คนหลายคนเคยคิดว่าสินีคือเจิลฮวนเวอร์ชั่นไทยแต่ตอนนี้ดูเหมือนเธอคงจะแพ้ยูวาดิดแล้วพูดได้คำเดียวว่าทายาทคือคนที่มีคำพูดสุดท้ายซึ่งลูกสัญญาว่าจะเป็นคนที่หัวเราะเป็นคนสุดท้ายทีปังกรมีความบกพร่องทางการเรียนรู้และไม่สามารถดูแลตัวเองได้ไม่ต้องพูดถึงการปกครองประเทศท้ายที่สุดแล้วเขาไม่เก่งเท่าพี่น้องชั้นยอดทั้ง4ของเขา